หลายๆ ท่านเกิดปัญหาว่าถ้าจะทำบ้าน หรือ Renovate ห้องใหม่ จะเลือกใช้โทนสีอะไรดี ให้ดูไม่น่าเบื่อ และต้องมีความกลมกลืนไม่ขัดตาจนเกินไป ยิ่งถ้าใครชอบตกแต่งบ้านให้มีสีสันแล้วละก็ จะต้องยิ่งกังวลกับปัญหานี้แน่ๆ ซึ่งการเลือกเฉดสีของห้องและเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ยากเลยครับ ถ้าเรานำไอเดียของทฤษฎีการจับคู่สีมาประยุกต์ใช้ ไม่ว่าจะเป็นสีทาผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ที่จะนำมาตกแต่งก็สามารถนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ได้เลยครับ
MONOTONE
การใช้สีเดียวไล่น้ำหนัก คือ การเลือกใช้คู่สีที่เป็นเฉดเดียวกัน แต่ระดับความเข้มอ่อนต่างละดับกัน เช่น ถ้าเราอยากได้ห้องที่ผนังเป็นเฉดสีเทา เราก็สามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ได้ตั้งแต่ สีเทาเข้ม ถึงสีเทาอ่อนไปจนถึงสีขาวได้ เพราะการเลือกใช้โทนสีห้องแบบ Monotone ก็จะทำให้ห้องดูสบายตามากยิ่งขึ้น และเหมาะกับบ้านที่ตกแต่งแบบ Minimal Style นั่นเองครับ


HARMONY
เฉดสีที่อยู่ใกล้กัน สังเกตได้จากวงล้อสีตามภาพประกอบ เราก็สามารถเลือกใช้คู่สีที่มีเฉดใกล้เคียงกันได้ในระหว่างสีของห้องและอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ เช่น เฉดสีเขียวคู่กับเฉดสีเหลือง สีน้ำเงินคู่สีเขียวอมน้ำเงิน และสีเขียว เป็นต้น


Y (TRIADS)
คือ การใช้คู่สี 3 เฉด ที่เป็นคู่สีแยกตรงข้าม เป็นสีที่อยู่แยก ไปทางซ้ายและขวาของสีตรงข้าม สังเกตง่ายๆจะเป็นลักษณะรูปตัว Y นั่นเองครับ เช่น สีน้ำเงิน/ม่วง-ชมพู/สีเหลือง เป็นต้น ข้อดีคือจะทำให้ห้องของคุณดูสดใสมากยิ่งขึ้นเพราะมีเฉดสีที่ใช้ถึง 3 เฉดสี


CONTRAST
การเลือกใช้สีตรงกันข้าม คือ การจับคู่สีโดยเลือกใช้สีเฉดที่อยู่ตรงข้ามกัน เช่น สีน้ำเงิน ตรงกันข้ามกับสีเหลือง , สีเขียว ตรงข้ามกับสีแดง เป็นต้น การเลือกโทนสีแบบนี้จะทำให้บ้านของคุณดูมีเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น อาจจะใส่ลูกเล่นเพิ่มเติมโดยการเลือกใช้ระดับสีเข้าไปช่วยในการเลือกสีของเฟอร์นิเจอร์ก็จะยิ่งลงตัวและดูกลมกลืนมากยิ่งขึ้นครับ

